เบนจามิน เนทันยาฮู หากเอ่ยชื่อนี้คนที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารต่างประเทศหรือไม่ได้ตามติดเกี่ยวกับเรื่องของข่าวคราวความเคลื่อนไหวในต่างประเทศอาจจะยังสงสัยว่าคนๆ นี้คือใคร แต่สำหรับคนที่ติดตามจะรู้กันดีว่าคนๆ นี้คือนายกรัฐมนตรีของประเทศอิสราเอลในปัจจุบันนี้ด้วย และยังเป็นคนที่สั่งการอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้ประเทศอิสราเอลเป็นอยู่ในทุกวันนี้ ซึ่งผลงานต่างๆ ของ เนทันยาฮู ก็มีด้วยกันมากมาย แต่ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับผลงานอันโดดเด่นของพวกเขานั้นลองมาทำความรู้จักชื่อเสียงและประวัติของเขากันหน่อยดีกว่า
เบนจามิน เนทันยาฮู เกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2492 ในกรุงเทลอาวีฟ โดยทั้งพ่อและแม่ของเขาต่างก็เป็นชาวยิว เขาได้กลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของอิสราเอลที่เกิดในประเทศอิสราเอล หลังจากการสถาปนารัฐ เนทันยาฮู ก็ได้เข้าร่วมกับกองกำลังป้องกันอิสราเอล หลังจากสงคราม 6 วัน เมื่อปี พ.ศ. 2510 พร้อมทั้งยังเคยเป็นอดีตหัวหน้ากองกำลังมากมายในประเทศอิสราเอลด้วย
ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เขาค่อนข้างที่จะเป็นคนหัวรุนแรงพอสมควร เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคลิคุดเมื่อปี พ.ศ. 2536 และชนะการเลือกตั้งครั้งแรกในปี พ.ศ. 2539 นั่นจึงทำให้เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลที่มีอายุน้อยที่สุดทันที โดยครั้งแรกที่ดำรงตำแหน่งจนถึงปี พ.ศ. 2541 และหลังจากแพ้การเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2542 เขาก็ได้หายหน้าไปและกลับมาอีกครั้งในปี พ.ศ. 2545 ด้วยการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ จนถึงปี พ.ศ. 2546 ก่อนจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจนถึงปี พ.ศ. 2548 และได้ลาออกจากการดำรงตำแหน่งด้วยสาเหตุของความไม่พอใจในเรื่องของแผนการปลดปล่อยฉนวนกาซ่า ซึ่งตรงจุดนี้เองน่าจะกลายเป็นผลงานที่ทั่วทั้งโลกเริ่มจดจำเขาได้มากที่สุด เพราะหลังจากที่เขากลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ก็ได้มีนโยบายในการโจมตีฉนวนกาซ่า ซึ่งเขาได้เรียกการโจมตีในครั้งนี้ว่า สงคราม 8 วัน แต่กลายเป็นว่ากองทัพอิสราเอลเองกลับแพ้อย่างไม่เป็นท่าที่สำคัญจากการที่เขาเป็นนักการเมืองหัวรุนแรงจึงทำให้เขานั้นพยายามใช้ความรุนแรงในการบริหารบ้านเมืองหรือการติดต่อกับนานาประเทศอยู่บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม เขาก็ถือได้ว่ามีเป็นคนที่พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอิสราเอลไปในทิศทางที่ดีเหมือนกัน และยังเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์การเมืองของอิสราเอลเวลานี้ว่าเคยได้รับการเลือกตั้งถึง 3 สมัยติดต่อกัน อย่างไรก็ตามคงต้องรอดูกันต่อไปว่า เนทันยาฮู จะสามารถสร้างผลงานอะไรออกมาให้ประชาชนชาวอิสราเอลประทับใจได้อีกหรือไม่ เพราะในเวลานี้เขายังคงกุมอำนาจของประเทศนี้อยู่นั่นเอง