‘อิสราเอลกับปาเลสไตน์’ มีปัญหากันมาอย่างยาวนานจนกระทั่งมันฝังรากลึกลงไปยังทั้ง 2 ประเทศอย่างยากที่จะถอน สงครามและปมความขัดแย้งทั้งหมด มีจุดเริ่มต้นมาจาก ‘กรุงเยรูซาเลม’ หรือในอดีตเรียกว่า ‘คานาอัน’ ดินแดนแห่งนี้จัดเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์โดยมีมาจากความเชื่อตามมหาคัมภีร์โทราห์ของศาสนายูดาห์ , คัมภีร์ Holy Bible ของศาสนาคริสต์ และ คัมภีร์อัลกุรอานของศาสนาอิสลาม ซึ่งตรงกับความเชื่อของทั้ง 3 ศาสนา

  • ถ้าอ้างอิงจากประวัติศาสตร์ของศาสนาคริสต์คุณจะทราบว่า ‘พระเยซู’ ถูกตรึงกางเขน ณ มหานครเยรูซาเลม พร้อมฟื้นจากความตายกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ภายในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนพันธะสัญญา
  • ถ้าอ้างอิงจากศาสนาอิสลาม นบีมูฮัมมัด ได้เดินทางขึ้นยังสวรรค์จาก มัสญิดอัล-อักซอในนครเยรูซาเลมแห่งนี้นี่เอง
  • และสุดท้ายจากประวัติศาสตร์ของศาสนายูดาห์ ได้มีเรื่องเล่าขานมาอย่างช้านานว่า บริเวณนี้ พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานพรให้แก่พวกเขา โดยถือเป็นดินแดนศักดิ์แห่งพันธะสัญญาของพระยาห์เวห์อันมอบให้แก่ชนชาติชาวอิสราเอล

ด้วยความศรัทธาอันแรงกล้าอันที่มีมาจากศาสนานี้เอง จึงทำให้ผู้เลื่อมใสศรัทธาที่เป็นชนรุ่นหลังต้องการเข้ามาครอบครองพื้นที่แห่งมหานครศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นของตน จึงกลายมาเป็นชนวนสงครามที่ไม่รู้ว่าจะจบสิ้นเมื่อไหร่ของศาสนาต่างๆ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสงครามศาสนาระหว่างชาวคริสต์กับชาวมุสลิมเสียมาก ทั้ง 2 ศาสนานี้ในอดีตเคยก่อสงครามที่มีชื่อว่า ‘ครูเสด’ มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1096 การปะทุของเชื้อไฟในช่วงนั้นเกิดจากความต้องการ ที่ต้องการครอบครองพื้นที่ของพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 1 ซึ่งทำการรวบรวมกองทัพนักรบเพื่อบุกจู่โจมชาวมุสลิมก่อน สำหรับการบุกโจมตีโดยชาวคริสตจักร นั้นเป็นเพียงแค่ครั้งแรกของ ‘สงครามศักดิ์สิทธิ์’ เท่านั้น เนื่องจากในกาลเวลาต่อมาสงครามนี้ยังคงดำรงอยู่มาอย่างยาวนานอีกหลายศตวรรษ มากกว่า 10 ครั้งขึ้นไป ด้วยเหตุนี้นี่เองจึงก่อให้เกิดไฟแค้นขึ้นภายในใจของประชาชนชาวคริสต์กับชาวมุสลิมทีละน้อยสุดท้ายเพลิงความพิโรธก็คุกรุ่นขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบให้ชาวยิวและประชาชนในกรุงเยรูซาเลมเสียชีวิตล้มตายลงไปเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ชาวยิวต้องค่อยๆอพยพย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ เนื่องจากพวกเขาต้องเผชิญกับกองทัพต่างๆเข้าจู่โจมอยู่เสมอ ทั้ง กองทัพแห่งอาณาจักรบาบิโลน , จักรวรรดิเปอร์เซีย และจักรวรรดิโรมัน

ต่อมาองค์การสหประชาชาติ ได้ออกมติให้อิสราเอลก่อตั้งรัฐใหม่ขึ้นได้บนดินแดนปาเลสไตน์ โดยจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งชาวปาเลสไตน์จะเหลือเพียงดินแดนเดียวนั่นก็คือฉนวนกาซากับเขตเวสต์แบงก์ แน่นอนว่ามตินี้สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวปาเลสไตน์รวมทั้งชาวอาหรับในประเทศใกล้เคียงมาก จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งอันยาวนานระหว่างอิสราเอล , ปาเลสไตน์รวมทั้งอาหรับยุคใหม่

นครเยรูซาเลม ของประเทศอิสราเอลเป็นอีกหนึ่งเมืองที่จะบอกว่าต้องสาปก็ไม่ผิดนัก เนื่องจากเมืองนี้เต็มไปด้วยสงคราม ความรุนแรงตลอดเวลา แต่อีกความหมายหนึ่งเมืองนี้ก็มีความสำคัญหลากหลายมิติด้วยเหมือนกัน หลายคนอาจจะไม่รู้จักเมืองนี้มากนัก เต็มที่ก็อาจจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างจากข่าวต่างประเทศ ดังนั้นเราขอเป็นสื่อกลางอธิบายความสำคัญของเมืองนี้ว่ามีมิติไหนบ้าง

เมืองแห่งศาสนา

คนในประเทศไหนก็ตามซึ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างมากก็คือ ความเชื่อซึ่งถือว่าเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชาติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ส่วนใหญ่เมืองหลวงมักจะเป็นเมืองของศาสนา ความเชื่อใดความเชื่อหนึ่งเป็นหลัก แต่นครเยรูซาเลมต่างเชื่อกันว่าพื้นที่นี้เป็นส่วนสำคัญของศาสนาของตนเองถึง 3 กลุ่มด้วยกัน เริ่มจากศาสนาอิสลาม พวกเค้าเชื่อกันว่า มัสยิดอัล-อักซอ ในกรุงเยรูซาเลมเป็นกลุ่มแรกที่เวลาละหมาดจะหันหน้าไปขอพระกับพระเจ้า (ก่อนจะปรับเป็นหันหน้าไปทางนครมักกะฮ์ เพื่อเป็นไปในทางเดียวกันมุสลิมอื่นทั่วโลกในภายหลัง) ไม่เพียงเท่านั้นมัสยิดแห่งนี้เชือกันว่าเป็นสถานที่ที่ศาสดา ได้ละหมาดก่อนขึ้นสู่ฟ้าเบื้องสูงในเวลาต่อมาด้วย

ด้านศาสนาคริสต์ พวกเค้าก็มีความเชื่อเกี่ยวกับนครเยรูซาเลมด้วยเหมือนกัน ตามคำบอกเล่าเชื่อกันว่าพระเยซูคริสต์ ได้ถูกตรึงกางเขน เสียชีวิตลง ณ เมืองแห่งนี้ อีกทั้งเมืองนี้ยังเป็นจุดฝังพระศพของพระเยซูคริสต์อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีศาสนายูดาย ศาสนาที่มีคนยิวนับถือมากที่สุด ก็เชื่อกันว่าศาสนาความเชื่อของพวกเค้าเริ่มต้นจากเมืองแห่งนี้ จะเห็นว่าทั้งสามศาสนาต่างก็อ้างความชอบธรรมตามความเชื่อของตน ดังนั้นเพื่อให้ความเชื่อของตนไม่สั่นคลอน จึงต้องการให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองของศาสนาตนเองให้ได้

ความสำคัญทางด้านการเมืองที่ควรอ่าน

จากความเชื่อดังกล่าว ทำให้คู่ขัดแย้งทั้ง อิสราเอล และ ปาเลสไตน์ มีความจำเป็นต้องการยึดเมืองนี้มาเป็นของตนให้ได้ ทำให้เกิดสงครามในทุกมิติเพื่อให้ได้เมืองนี้มา เรียกได้ว่า เมืองนี้มีความสำคัญทางด้านการเมืองมาก ทั้งสองฝ่ายต่างต้องการควบคุมเมืองนี้แบบ 100% แม้จะมีคนเสนอทางออกแบบไหนก็ตาม ทั้งคู่ไม่ยอม

ความสำคัญของภูมิประเทศ

หากเราเปิดแผนที่จากกูเกิ้ลดู จะเห็นว่า นครเยรูซาเลม นั้นตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางประเทศของ อิสราเอลพอดี ชัยภูมิดีแบบนี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่ยอมเช่นกัน หากใครได้เมืองนี้ไปครอง นั่นหมายถึงอีกฝ่ายจะเสียเปรียบด้านชัยภูมิ และยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงทันที ยังไม่นับหากพัฒนาเป็นจุดศูนย์กลางจะทำให้ประเทศพัฒนาไปอีกหลายก้าวเลย ความสำคัญมากขนาดนี้เลยไม่แปลกที่คู่ขัดแย้งทั้งสองไม่ยอม และคิดว่าคงจะไม่ยอมไปอีกนาน